Scottish Universities Alumni
"
รีวิว Pre-sessional English Course, Heriot-Watt ดีไหม
- ทำไมถึงตัดสินใจเรียนหลักสูตร Pre-sessional English Course ของ Heriot-Watt University อื่ม ขอตอบเป็นข้อ ๆ นะครับ 1) ภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรงเท่าไรครับ ฮ่า ๆ ได้ IELTS แค่ 5.5 เองครับ ซึ่งผมหวังว่าหลักสูตรนี้จะช่วยผมพัฒนาภาษาอังกฤษได้ครับ 2) ระยะพอเหมาะกับจังหวะชีวิตด้วยครับ ผมเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลฯ ซึ่งใช้เวลาในการเตรียมตัวเกือบหมดแล้ว จำเป็นต้องรีบเดินทางครับ
- ผมชอบการเรียนการสอนที่นี้มาก ๆ ครับ อาจารย์สอนให้เรารู้จักคิดและวิเคราะห์ หรือที่เขาเรียกว่า Critical Thinking และสามารถนำเสนอมันออกมาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม สำหรับ Course นี้ มีระยะเวลาในการเรียน 14 สัปดาห์ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ Academic Literacy, Academic Engagement, Literature Review และ Case Study ต้องบอกเลยว่าผมชอบทุกส่วนเลยครับ เพราะมันฝึกให้เราสามารถไปเรียนต่อในระดับบัณฑิตศึกษา (Postgraduate study) ได้ดีเลยครับ เช่น Academic Literacy จะสอน Academic Writing ที่ถูกต้อง การใช้ Grammar ต่าง ๆ ในการเขียนเชิงวิชาการ การอ้างอิงที่ถูกต้อง การเขียนแบบ Critical Thinking เป็นต้น ส่วน Academic Engagement จะสอนเรื่องการพูด การสัมมนา การนำเสนอโปสเตอร์ครับ ส่วนสองสุดท้ายจะเป็นงานเขียนที่ต่อยอดจาก Academic Literacy รวม ๆ กันประมาณ 3,000 คำ ขอบอกว่าสนุกและเหนื่อยสุด ๆ แต่ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
- สำหรับบรรยากาศในห้องเรียนถือว่าสนุกมาก ๆ ครับ อาจารย์เป็นกันเองกับนักเรียนมาก ค่อยให้คำแนะนำตลอดการเรียนเลยครับ พยายามกระตุ้นให้เราแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่จำเป็นต้องถูกต้อง 100% นะครับ เพื่อน ๆ ในห้องตั้งใจเรียนกันมาก ถามว่าเรียนหนักไม ก็หนักเอาเรื่องเหมือนกันครับ การบ้านเยอะพอสมควร แต่ระยะที่อาจารย์ให้ก็สมเหตุสมผลนะครับ คือถ้าเราวางแผนดี ๆ ทำทุกวัน เสร็จทันส่งแน่นอนครับ ที่นี้ถ้าส่งไม่ทันหักคะแนนด้วยนะครับ และเวลาส่งงานทุกครั้งต้องตรวจ Plagiarism ป้องกันการขโมยคัดลอกงานคนอื่นมาเป็นของตัวเองครับ ซึ่งเราต้องส่งงานเพื่อตรวจก่อนครบกำหนดส่งงานก่อนประมาณ 1-2 วัน ป้องกันเราเผลอไปคัดลอกของคนอื่นมาแบบไม่ตั้งใจ เราก็สามารถแก้ไขและส่งงานได้ทันครับ
แชร์เรื่องเมืองและความเป็นอยู่
- Edinburgh เป็นเมืองที่สวยมาก ๆ ครับ อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของ Scotland ผมประทับใจสุด ๆ ตรงที่คนสก็อตสามารถรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี และที่สำคัญสามารถผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนเมืองได้อย่างดีและลงตัว ในเมืองมีครบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ห้างขนาดใหญ่อย่าง Primark (ปล. ของถูกสุด ๆ ในคุณภาพที่รับได้) ผับก็เยอะพอสมควร (แต่ผมไม่ถนัดนะครับ ฮ่าๆ) สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นมีเยอะมากมาย เช่น ปราสาท Edinburgh, พิพิธภัณฑ์, Marry King’s Close, และอีกมากมาย
- สำหรับกิจกรรมการระหว่างเรียน Pre-sessional English Course ทาง Heriot-Watt University จัดให้เต็มที่เลยครับ เรียกว่า Social Program โดยทุก ๆ วันเสาร์จะพานักเรียนไปทัศนศึกษาต่าง ๆ เมือง เช่น St Andrew, Stirling, Glasgow ขอบอกเลยว่าช่วยให้เราคลายเครียดจากการเรียนได้ดีเลยครับ ในระหว่างสัปดาห์ เช่นทุก ๆ วันอังคาร ก็จะมีกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยหรือในเมืองครับ ทุก ๆ กิจกรรมฟรีนะครับ (จริง ๆ มันรวมอยู่กับค่าเรียน ฮ่า ๆ)
- สำหรับการเดินทางของที่นี่มีให้เลือกทั้ง รถเมล์ (1.70 ปอนด์ตลอดสาย), แทรม, รถไฟ, แท็กซี่, และอูเบอร์ สะดวกสบายมากครับ สำหรับรถเมล์สามารถใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์ Contactless ใช้ได้เลยครับ สะดวกสบายมาก ๆ ถ้าใครมีจุดหมายปลายทางที่ต้องขึ้นรถเมล์มากกว่า 2 เที่ยว ผมแนะนำให้ซื้อตั๋ววันจะประหยัดกว่าครับ ซื้อได้ผ่าน application m-ticket
- สำหรับที่พัก ผมเลือกพักหอในมหาวิทยาลัยครับ เป็นห้องพักแบบ En Suite (มีห้องน้ำในตัว) ผมได้พักที่ Robin Smith Hall แชร์ห้องครัวประมาณ 5 คน ครับ มีห้องซักผ้าบริการอยู่ข้าง ๆ หอพักเลยครับ ซักผ้า 2.8 ปอนด์ และอบผ้า 1.5 ปอนด์ ในมหาวิทยาลัยจะมี Shop คล้าย ๆ 7-11 บ้านเรา แต่จะปิดเร็วหน่อยครับ (จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 – 18.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 14.00 น. เฉพาะ Summer นะครับ) ส่วนใหญ่ผมจะเข้าไปซื้อของสดในซุปเปอร์มาเก็ตในเมืองครับ เช่น Sainsbury’s, ASDA, LIDLเป็นต้นครับ ออ ๆ ถ้าใครคิดถึงอาหารไทยอยากทำกินเอง ในเมืองจะมีร้านไทยชื่อร้าน Thai@Haymarket มีทุกอย่างให้เลือกสรรครับ ไม่ว่าจะเป็น ใบกะเพรา ชะอม พริกสด และอื่น ๆ อีกมากมาย
- ถ้าพูดถึงค่าครองชีพของเมือง Edinburgh ก็ถือว่าแพงกว่าเมืองไทยแน่นอน แต่น้อยกว่า London ครับ ผมอาศัยซื้อของจาก Supermarket มาตุนไว้ แล้วก็สลับทำกับข้าวกินเองกับซื้อกินวันเว้นวัน ส่วนใหญ่อาหารที่ซื้อกินก็จะเป็นพวก Sandwich, Panini, ไก่ทอด ครับ ในมหาวิทยาลัยจะมีโรงอาหารให้บริการอยู่ครับ
- สำหรับเพื่อน ๆ ต้องขอบอกเลยว่าส่วนใหญ่เป็นคนจีนฮ่า ๆ รุ่นผมมีนักเรียนไทยมาเรียนที่นี่ประมาณ 8 คน (course 14 สัปดาห์) อาจารย์จะแบ่งนักเรียนออกเป็นห้อง ๆ ละประมาณ 7-8 คน ผมได้อยู่ห้องที่ชื่อว่า Jackson มีคนไทย 2 คน (รวมผม) คนจีน 4 คน และคนซาอุดิอาระเบียอีก 1 คน สำหรับเพื่อนคนจีนแล้วสามารถเข้ากับคนไทยได้ดีเลยครับ อาจจะเป็นเพราะเรามีวัฒนธรรมบ้างอย่างคล้าย ๆ กัน ส่วนเพื่อนซาอุฯ ค่อนข้างจะแยกตัว ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมกับพวกเราเท่าไร
ความประทับใจ
- สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คือ อาจารย์ และระบบการเรียนการสอนของที่นี้ครับ มันทำให้เรากล้าแสดงออกมากขึ้น ทำให้เราคิดอะไรที่เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น ถ้าเราไม่เห็นด้วยกับอาจารย์หรือเพื่อน ๆ เราก็สามารถเอาข้อเท็จจริงของเรามาแย้งได้ อาจารย์บอกเสมอว่า อาจารย์ก็สามารถทำผิดได้ ฉะนั้นอย่าเชื่ออาจารย์ 100%
- สุดท้ายนี้ ขอบคุณตัวเองที่สู้จนผ่านมันมาได้ ขอบคุณเกมและ mcducation ที่คอยอำนวยความสะดวกทุกสิ่งอย่างนะครับ โดยเฉพาะคุณเกม ผมยังจำคำที่คุณเกมบอกก่อนเดินทางว่า “…มันก็ยากอยู่นะคะ…” ทำให้ผมฮึดสู้ ตั้งใจกับมันอย่างเต็มที่ (ปล. นอนดึกสุดคือตี 4 ฮ่า ๆ) สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้มันก็คุ้มครับ มันทำให้ผมได้ไปเรียนต่อปริญญาเอกอย่างที่ฝันครับ
น้องๆที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลักสูตรนี้ที่ Heriot-Watt ดีไหม มหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร สามารถลงทะเบียนที่ช่อง “สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม” ด้านล่างนี้ได้เลยค่า"