"
'' รีวิวเรียนต่อ MSc Advanced Pharmaceutical Manufacturing ที่ University of Strathclyde ''
เพิ่งจบปริญญาโทเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้รอทำเรื่องไปเรียนต่อปริญญาเอก
1. ตอนที่ไปเรียน ทำไมถึงเลือกมหาวิทยาลัยนี้นะคะ ?
ผมได้ทุนมาหลายปีแล้วยังไม่ได้สมัครสักที จนทุนบอกว่าถ้าไม่ได้เดินทางภายในเดือนกันยายน 2018 ก็จะถือว่าหลุดทุน ก็เลยรีบหามหาวิทยาลัยครับในสาขาที่จะไปเรียน บางที่ก็ปิดรับสมัครไปแล้ว ทีนี้ของ Strathclyde ยังเปิดอยู่ แล้วก็ตอนนั้นผมมีคะแนนที่อยู่ 6.0 ครับ จะสอบใหม่ก็ไม่ทันแล้ว ก็เลยตัดสินใจเลือก Strathclyde เพราะว่าสาขาที่เรียน Advanced Pharmaceutical Manufacturing เขารับที่ 6.0 ครับ ทีนี้ Strathclyde ออก offer ให้เร็วสุด กระบวนการมันเร็วมากเลยครับ เราก็เลยเลือก Strathclyde แล้วก็มาเจอกับ McDucation ก็ให้ McDucation ดำเนินการต่อให้ครับ เลือก Strathclyde เพราะเขาดำเนินการเร็วครับ ผมโชคดีที่มีน้องคนไทยไปด้วยพร้อมกัน 3 คน ก็เลยกลายเป็น 4 คนในคอร์สเดียวกันครับ ก็มีคนช่วยเรียน ก็สนุกดีครับ แล้วสาขานี้มันรับคนจากหลาย background ครับ ไม่ใช่แค่เภสัชอย่างเดียว ดังนั้น เนื้อหาก็จะไม่ยากมากจนเกินไป อย่างเรา background เป็นเภสัช มันก็พอมีวิชาที่เป็นเภสัชอยู่บ้าง กับวิชาที่มันต่างออกไปเลย ตอนเรียนก็ดีนะครับ มีวิชาที่ตัวเองเคยรู้มาแล้วบ้าง กับวิชาที่ไปเรียนใหม่ ๆ บ้าง ครึ่ง ๆ เลย วิชาที่ใหม่ก็ใหม่จริง ๆ สำหรับคนไทยครับ ส่วนเรื่อง facilities ในความคิดเห็นผมก็คือดีมากครับ มีเพียงพอสำหรับนักเรียนทุกคนครับ ตอนที่จะสมัครผมเสิร์ชจากใน google เลยครับ แล้วก็เจอ Strathclyde ขึ้นมา ก็รีบไปหาว่าใครเรียนที่ Strathclyde บ้าง ก็มีอาจารย์ที่คณะเคยไปเรียน ลองถามอาจารย์ดู อาจารย์เขาก็แนะนำว่าโอเคครับ เราก็เข้าไปดูรายละเอียดทีหลังว่ามหาวิทยาลัยนี้เป็นยังไง แล้วพอดู ranking ที่เป็นทางเภสัช ดูข้อมูลที่เขาโฆษณาแล้วก็โอเคเลยครับ
2. หลักสูตรนี้ มี Accreditation มั้ยคะ อันนี้ไม่แน่ใจว่าถ้ามี Accreditation แล้วมันมี Benefit อะไรบ้างนะคะ แล้วช่วยในการหางานมั้ยคะ ?
อันนี้ผมไม่แน่ใจครับ
3. ถ้าให้เลือกวิชาที่เรียนแล้วชอบที่สุด มีวิชาอะไรบ้างคะ ยกตัวอย่างซักสองสามวิชาได้มั้ยคะ แล้วก็ที่ชอบเพราะว่าอะไร ?
- Process Analytical Technology & Quality by Design in Continuous Pharmaceutical Manufacturing ครับ ผมคิดว่าเป็นวิชาที่ใกล้ตัว แล้วก็ PAT มันเป็น Technology ที่ช่วยลดต้นทุนได้ คิดว่ามันมีส่วนนึงที่สามารถเอากลับมาทำในประเทศไทยได้ครับ เมืองไทยน่าจะได้นำเอา Technology พวกนี้มาใช้ในเร็ว ๆ นี้ครับ
- วิชานี้เป็นทางเคมีนิดนึงครับ เหมือน Logics Evaluate Analysis ครับ แต่จำชื่อวิชาเต็มไม่ได้ครับ จริง ๆ มันเป็นวิชาที่ใหม่สำหรับเรา แล้วมันดูใช้ประโยชน์ได้หลายสาขามาก ไม่ได้ใช้แต่ในสาขาเภสัชอย่างเดียว เอาไปใช้กับเคมี กับตัวอื่น ๆ ได้ด้วยครับวิชานี้ มีวิเคราะห์หลายตัวแปร ที่เอาไว้ทำนายผลการทดลองครับ จะเป็นทางสถิตินิดนึง แต่เป็นสถิติที่เฉพาะทางด้านเคมีครับ แล้วก็เอามาใช้ช่วยกับวิชา PAT เมื่อกี๊ครับว่ามันมีหลายตัวแปรแล้วเราก็มาวิเคราะห์ว่าทำไมกระบวนการผลิตมันเพี้ยนไป เพราะอะไร
- อีกวิชาที่ชอบคือ Crystallisation & Formulation for Manufacture ครับ เมืองไทยก็อาจจะยังไม่ค่อยได้ใช้ในทางยานะครับ แต่ว่าในระดับมหาวิทยาลัยอาจจะมีการทำวิจัยบ้าง เป็นเหมือนการตกผลึกสารให้ได้ในแบบที่เราต้องการ จะพยายามตกผลึกให้ได้รูปทรงรูปร่างอย่างที่เราต้องการ เพื่อที่จะให้มันละลายได้เร็ว ดูดซึมเร็ว แต่ถ้าในอุตสาหกรรมไทย เราไมได้ผลิตเองอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เราจะนำเข้ายาจากอินเดีย ยุโรปแล้ว แต่พอเป็นฝั่งยุโรป ฝั่งอังกฤษ เขาก็จะเป็น primary เลยครับ ก็จะออกไปในทาง physical chemistry นิดนึง เขาพยายามคิดคำนวณนู่นนี่ครับ ให้ตกผลึกให้สวยงามตามที่เราต้องการ อันนี้ที่ชอบเพราะว่ามันใหม่เหมือนกัน รู้สึกเปิดโลกครับ แล้วเขาก็มีเครื่องไม้เครื่องมือ ในห้อง lab ที่ทันสมัยมาก ๆ เราก็ชอบครับ พอรู้ว่ามันมีหลักการในการผลิตยาต้นแบบต่างกันยังไงก็เลยชอบ แต่ว่าเป็นวิชาที่ทำคะแนนได้แย่ที่สุดเพราะมันออกคำนวณเยอะ แต่ก็ชอบเหมือนกัน (หัวเราะ) สาขานี้เป็นสาขาที่ต้องทำ lab อยู่แล้วครับ ก็มีเรียน lecture ก่อนแล้วก็ไปทำ lab ต่อ ไปทำตามที่อาจารย์วางแผนให้ แล้วอีก part นึงที่ให้ลองทำยาโดยการแบ่งกลุ่ม แล้วก็ลองตกผลึกสารที่เราสนใจครับ บางทีการไป discuss กับเพื่อนซึ่ง part นึงก็เป็น native แล้วก็ part-time เราก็จะไม่ค่อยมีเวลา ถามว่าสนุกมั้ย ก็สนุกดีครับ ได้ลองเครื่องมือหลาย ๆ อย่าง มันมีข้อดีตอนทำ project ถ้าไปเลือกทำเรื่องนี้ project ส่วนใหญ่จะเป็น lab-based ก็คือทำในห้องทดลองเลยครับ การเลือกหัวข้อวิจัยก็คือเขาจะมีหัวเรื่องมาให้ คล้าย ๆ อาจจะเอา Research Proposal มาให้แล้ว เราก็เลือกว่าจะเอาเรื่องไหน ซึ่งประมาณ 90% เลยที่ต้องทำใน lab ก็จะมีบ้างบางหัวข้อที่ทำเป็น computer-base เช่นการวิเคราะห์ผล แต่ส่วนใหญ่จะก็ทำในห้อง lab ครับ ถ้าเรื่อง project แนวด้านนี้ของมหาวิทยาลัยก็จะมีหลากหลาย อย่างน้อยก็จะมีเรื่อง Crystallisation ครับ เฉพาะใน class มีทั้งหมด 25 คน ก็จะมีประมาณครึ่งนึงที่ทำการตกผลึกสาร อีกส่วนนึงที่เลือกทำในแนว 3D Printing ครับ คือใช้เครื่อง print 3 มิติในการ print ยาให้ได้รูปร่างตามที่เราต้องการ แล้วก็มีเรื่องเกี่ยวกับ Design of Experiment คือออกแบบยาโดยมี program เป็นตัวช่วยว่าเราจะออกแบบยายังไงให้ได้ในลักษณะที่เราต้องการโดยที่เสียเวลาน้อยที่สุด คือเราไม่ต้อง vary ตัวแปรเยอะครับ สมมติสารมี 10 ตัวใช่มั้ยครับ สารตัวที่หนึ่ง เราจะใส่ 1, 2, 3, 4, 5 จะใส่เท่าไหร่ดีถึงจะเหมาะ เราก็ต้องทำเป็นร้อยสูตร แต่ DOE มันจะมีข้อมูลมาช่วยว่าควรจะทำประมาณนี้นะ
4. มีโอกาสได้ research funding เพื่อเรียนต่อ ป.เอกมั้ยคะ ?
มีครับ ตอนนี้ป.เอกอาจจะเปลี่ยนสาขาครับ พอไปเรียนโทแล้วเรารู้แล้วว่า technology สาขาที่เราเรียนเนี่ย นำกลับมาใช้เมืองไทยได้น้อยมาก เพราะไทยเราไม่มี facilities อย่างเขา เลยเปลี่ยนมาเรียนในสาขาที่ใช้ facilities ไม่เยอะ ตอนนี้ก็เลยไปสมัครเป็นสาขา Health Outcome Research กับ Pharmacoeconomics ครับ เป็นทางเภสัชเศรษฐศาสตร์ ต้องวิเคราะห์ต้นทุนสุขภาพ ไม่ต้องใช้เครื่องมือเยอะ จะเกี่ยวกับการดึงข้อมูลมาวิเคราะห์มากกว่าครับ ไม่ใช่ lab-base แล้ว แบบไปอ่านงานวิจัยมาแล้วเก็บข้อมูล แต่เป็นข้อมูลทุติยภูมิ secondary data เลย ไม่ต้องทำ lab เองกับมือ ก็จะทำให้น่าจะเหมาะกับงานของตัวเองที่เราต้องจบมาทำมากกว่า แบบไม่มีห้อง lab ให้ทำแน่นอนอะไรอย่างงี้ครับ เพราะว่าความพร้อมเขาเยอะกว่า
5. Dissertation ยากมั้ย ต้องเขียนกี่ Word ทำเป็นกลุ่มหรือเดี่ยว และมีโอกาสได้ทำ project กับบริษัทมั้ย ?
Dissertation Dissertation 20 Supervisor 12project lab train trainlab 10,000 words dissertation ยากมั้ย ผมว่ามันยากตรงการเขียนมากกว่า แต่ไม่ได้ยากมากขนาดนั้น เพราะว่าไม่ได้เป็น project ใหญ่ และเราไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะเค้าคิดมาให้แล้วเราก็ review แล้วทำตามครับ เพราะการทำ project ก็ทำเดี่ยว ดังนั้นหัวข้อ project ก็จะเหมาะสมกับการทำคนเดียวครับ ส่วนเรื่องการทำ project กับบริษัท ผมไม่ได้ทำครับ เพราะไม่อยากทำกับบริษัท ไม่อยากโดนคาดหวังเยอะ เลยเลือกทำกับอาจารย์ และยังไงกลับมาก็ไม่ได้ทำงานกับบริษัทอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้เลือกครับ และส่วนใหญ่คนที่ได้ไปจะเป็นพวก native ซึ่งมีทั้งหมด 25 projects แต่มีอยู่ 3 projects ที่ทำร่วมกับบริษัท และต้องฝึกงานกับบริษัท ไม่แน่ใจนะครับว่าคนที่ไปทำกับบริษัทนี่เขาได้ค่าจ้างรึเปล่า แต่คิดว่าไม่น่าจะได้ เพราะไปทำไม่นาน แต่จะได้ connection กับทางบริษัท คือเรียนจบปุ๊บก็ได้ทำงานกับบริษัทที่ไปฝึกเลย
6. เพื่อนๆใน Class ส่วนใหญ่มาจากไหนกันคะ ?
มีคนไทยเยอะสุดแล้วครับ คนไทยประมาณ 14 คน และก็มี Scottish 5-6 คน ที่เหลือก็จะมาจากฝั่งยุโรปบ้าง มีกรีซ อินเดีย เวียดนาม โคลัมเบีย เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กที่เพิ่งจบใหม่แล้วมาเรียนต่อโทเลย คนไทยส่วนใหญ่ก็จะโตหน่อย ใน class ไม่มีปัญหาเลย ไม่มีการเหยียดครับ ใน class ก็จะ multi-cultural มาก เพื่อน friendly กัน ไปกินไปดื่มกัน party กัน
7. สิ่งแวดล้อมบรรยากาศในการเรียนเป็นยังไงบ้างนะคะ สนิทกับเพื่อนๆมั้ย
เพื่อน ๆ คนไทยก็ช่วยกันเรียน มีเพื่อนโคลัมเบียที่สนิทกัน เขาเป็นเด็กเก่ง เขาก็มาอธิบายให้เราฟังทีหลังได้ เพื่อนเวียดนามก็ขยันมาก เวลามีงาน ก็จะคอยมาเตือนว่าต้องส่งงานตอนไหน ทำงานไปถึงไหนแล้ว เพื่อนมีน้ำใจกันมาก เรื่องเรียนคือไม่มีปัญหาเลย มีปัญหาเรื่องการฟังนิดหน่อย เพราะสำเนียง Scottish ฟังยากหน่อย
8. อาจารย์แต่ละท่านเป็นยังไงบ้างคะ ตัดเกรดโหดมั้ย อาจารย์ Support หรือเข้าหาง่ายมั้ย
อาจารย์เข้าหาง่ายมาก ไม่ได้ตัดเกรดโหด เป็นไปตามเกณฑ์ที่อาจารย์กำหนดเลย ถ้าสงสัยเรื่องคะแนนสอบก็สามารถถามได้เลย อาจารย์ fair มาก อันไหนคุณอยากจะถามก็ถามได้ ไม่ต้องเกรงใจ หรือถ้าอาจารย์สอนไม่รู้เรื่องก็บอกได้เลย อาจารย์ไม่โหดเลย พร้อม support ตลอด
9. มหาวิทยาลัยมี Service ช่วยดูหรือหาที่ฝึกงาน หรือทำ project กับบริษัทมั้ยคะ
เขามีศูนย์ช่วยจัดหางานให้ครับ และในระหว่างปีการศึกษาเขาจะมีนิทรรศการ มี Job Fair รับสมัครงาน แต่ผมมีงานอยู่แล้วเลยไม่ค่อยสนใจ และทางมหาวิทยาลัยก็ส่ง email มาให้เรื่อย ๆ ว่ามีรับสมัครงานของที่ไหนยังไง และคอย update ข่าวสารให้นักเรียนรู้ตลอด
10. ในแง่ของความสัมพันธ์กับภาคธุรกิจของหลักสูตรนี้เป็นยังไงบ้างคะ
สาขานี้ก็จะไม่เหมือนพวก Business อะครับ เพราะ point ของคนที่เรียนสาขานี้ก็คือกลับไปทำงานโรงงาน ซึ่งโรงงานก็จะอยู่แถบ Europe อยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราเป็นคน native หรือ EU ก็น่าจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ เพราะศูนย์วิจัยในสาขานี้ที่ชื่อ CMAX เป็นศูนย์วิจัยที่ร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับบริษัทยาต่างๆ เขามาลงทุน สร้างตึกให้ ดังนั้นคนที่ได้เรียนหรือฝึกงานที่นั่นก็จะมี credit ว่าจบจากที่นี่ เพื่อไปสมัครงานในบริษัทยาต่าง ๆ ได้ เพราะว่าที่นี่ก็มีชื่อเสียง
11. ความรู้และประสบการณ์อะไรบ้างที่ได้มาจากการไปเรียน ที่คิดว่ามีประโยชน์และได้ใช้กับการทำงานและได้งานมากที่สุด
ความรู้ก็จาก 3 วิชาที่ชอบเลย ส่วนประสบการณ์ก็เป็นเรื่องของระบบ การจัดการเรียนการสอนของทางมหาวิทยาลัย เช่น การเตรียม lab และวิธีการจัดการกับนักศึกษา การจัดการเรียนการสอน นอกเหนือจากนั้นก็เป็นประสบการณ์ใช้ชีวิตในต่างประเทศครับ
12. มีความประทับใจอะไรเกี่ยวกับการไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้บ้างคะ ขอ 3 ข้อ ^^ (เป็นเรื่องคอร์ส อาจารย์ เมือง Facilities)
- ชอบเมือง เมืองน่าอยู่ ค่าครองชีพถูกครับ
- มหาวิทยาลัยก็น่าเรียน ชอบมหาวิทยาลัย ไม่ต้องแข่งขันมากเกินไป เพื่อนช่วยเหลือกันเรียน บรรยากาศในการเรียนก็ชิล ไม่เครียดเกินไป และ Facilities พร้อมมาก เช่น software ที่เราต้องใช้เรียน ก็มีให้โหลดฟรี มีโควต้า print งานฟรีเป็นร้อยเป็นพันแผ่น และอุปกรณ์ในห้อง lab มีเพียงพอสำหรับทุกคน
- เรื่องอาหารการกินไม่ลำบากเลย หาอาหารไทยได้จาก Asian Market แต่อาจจะแพงกว่าที่ไทยหน่อย แต่วัตถุดิบบางอย่างก็ถูกกว่าที่ไทยอีก ไม่มีปัญหาเลย
13. คิดว่าคอร์สนี้เหมาะกับใครคะ อยากให้ฝากถึงน้องๆหน่อย
คนที่ไปเรียนส่วนใหญ่จะเป็นเภสัช จึงคิดว่าเหมาะกับน้อง ๆ เภสัช เพราะว่าจะมีความรู้พื้นฐานอยู่แล้วบ้างในบางเรื่อง ส่วนเรื่องการเรียนมันก็เครียด แต่ระยะเวลามันสั้น คอร์สมันก็จะหนักหน่อยนึง คือเรียนแล้วก็ส่งงาน แล้วก็เรียน แล้วก็ส่งงาน วนอยู่แบบนี้ แต่ถ้าบริหารจัดการเวลาดี ๆ คือจัดการตัวเองให้ได้ก่อน และก็หาเพื่อนดี ๆ ช่วยกันเรียน แบบนี้ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ
สำหรับน้องๆที่สนใจเรียนต่อด้าน Advanced Pharmaceutical Manufacturing หรือสมัครเรียนที่ University of Strathclyde สามารถลงทะเบียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างนี้เลยค่ะ"