"
'' รีวิวเรียนต่อ MLitt Strategic Studies ที่ University of St Andrews ''
แนะนำตัวหน่อยค่า
- สวัสดีค่ะชื่อ Chanoknun Pungah หรือ มีน (Meen) นะคะ จบปริญญาตรีมาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ สาขา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระหว่างที่จบมาก็ทำงานก่อนจะไปเรียนที่ Scotland ค่ะ พอทำงานครบเป็นเวลา 1 ปีก็ได้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ University of St Andrews เป็นคอร์ส MLitt Strategic Studies ค่ะ ปัจจุบันทำงานข้าราชการ อยู่ในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผน ที่สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีค่ะ
ตอนแรกทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้ที่ University of St Andrews นะคะ
- ตอนแรกมีนไปปรึกษาอาจารย์ที่คณะของมีนก่อนค่ะ ซึ่งเราก็ช่วยเขาทำวิจัยอยู่ด้วยเลยถือโอกาสปรึกษาไปด้วยเลย เขาก็แนะนำที่ University of St Andrews มา แล้วเขารู้ว่ามีนไม่ได้อยากเรียนที่ London แล้วอีกอย่าง ranking ที่ University of St Andrews ก็สูงด้วย มีอาจารย์ท่านหนึ่งเรียนที่ University of Oxford ด้วยแล้วเขาย้ายไปเรียนที่ University of St Andrews แถมเขาก็มีชื่อเสียงในสายนี้ด้วย อีกอย่างเขาสอนในคณะที่มีนจะสมัครด้วยก็เลยสนใจเป็นที่นี่ค่ะ
แล้วเราชอบวิชาไหนที่สุด และก็ชอบเพราะอะไรนะคะ
- ถ้าที่ชอบโดด ๆ เลยก็จะเป็นตัววิชาบังคับของโปรแกรมนี้ มันจะชื่อว่า
Strategic Thought อะค่ะ เป็นวิชาที่เขาจะยก historical practice มาว่าพัฒนาการของการวาง strategic ของแต่ละยุคเป็นยังไง เช่นการเรียนที่เรียนตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 แล้วก็ไล่เรียงมา ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำให้การวาง strategic มันเปลี่ยนไปยังไงบ้าง มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วงไหน ทำให้เห็นภาพรวมของทั้งหมด มันก็มีประโยชน์ต่อวิชาอื่นด้วยนะคะ เพราะมันเป็นเหมือนการปูพื้นฐานการเรียนไปในตัวด้วย ชอบวิชานี้ที่สุด แล้วก็เราทำคะแนนวิชานี้ได้ดีที่สุดด้วยค่ะ
- ส่วนอีกตัวที่ชอบจะเป็นวิชาเลือกอะค่ะ ชื่อ
Emergent Great Powers ตัวนี้สามารถเอามาใช้ในสถานการณ์จริงดีที่สุดค่ะ เพราะว่าเขาเน้นไปที่อินเดียกับจีน คาดการณ์ว่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจในอนาคตที่น่าสนใจ ไม่ค่อยเหมือนวิชาอื่นที่เรียน ตรงที่มันค่อนข้างจะเป็นอะไรที่ temporary หมดเลย แล้วเราเรียนในแง่ที่เป็นพหุภาคี ซึ่งโยงกับแต่ละประเทศ แล้วตัวคอร์สที่เรียนเนี่ยหลัก ๆ จะเป็นประเทศอินเดียและจีน เราสามารถจัดเรียงความคิดได้ง่ายเพราะมีแค่สองประเทศ จากนั้นเราก็แตกเป็นความสัมพันธ์ของแต่ละประเทศย่อย ๆ หรือเป็นภูมิภาคไปค่ะ น่าจะปรับใช้ได้มากสุดค่ะวิชานี้
แต่ละเทอมลงเรียนกี่วิชา แล้วการวัดผลเป็นยังไงบ้างเอ่ย
- เทอมละ 2 วิชาค่ะ ซึ่งเทอมแรกเราไม่สามารถเลือกเองได้เลย เพราะเขาบังคับลงมาให้แล้ว ก็จะมีตัว core มี 2 วิชาคือ
Modern War and Strategy และ
Strategic Thought อาจารย์สอนคนละตัวกัน วิธีการเรียนการสอนเหมือนกันเลยค่ะ 2 วิชานี้คือ essay 5 ชิ้น เขียนอาทิตย์เว้นอาทิตย์ค่ะ โดยชิ้นหนึ่งก็เขียนประมาณ 2,000 คำค่ะ รวม 5 ชิ้นต่อวิชาก็ 10,000 คำ ซึ่งการวัดผลคะแนนก็มาจาก essay ล้วน ๆ เลย ไม่มีการสอบ
- เทอมสองเราก็สามารถเลือกเองได้แล้ว มีนเลือก
Emergent Great Powers กับ
Agency and Strategy in Non-Western Political Thought การวัดผลไม่เหมือนกันแล้วแต่อาจารย์ อย่างตัว
Emergent Great Powers เขาจะให้เขียน essay 2 ชิ้น ซึ่ง 5 สัปดาห์แรกจะต้องส่ง essay ชิ้นแรกก่อน แล้ว 10 สัปดาห์ถัดมา ก็ส่ง essay ชิ้นที่สอง ก็คืออาจารย์เขาให้โจทย์มาค่ะ เหมือนกับการสอบมิดเทอมนั้นแหละค่ะ เราก็เลือกโจทย์นั้น ๆ มา เหมือนการบ้าน take home ให้เลือกไป 1 ข้อ เอาไปเขียนความยาวประมาณ 4,000 คำ ถ้าจำไม่ผิดแล้วก็จะมี present ด้วยแต่ไม่ได้ให้คะแนนนะคะ อาจารย์เขาแค่อยากดูว่าเรามีความคิดยังไงในการนำเสนออย่างนี้มากกว่า ส่วนวิชา
Non-Western Political Thought นี้มีงานทุกอาทิตย์เลยค่ะ แต่เป็นงานชิ้นเล็ก ๆ อะค่ะประมาณ 5 ชิ้น เช่น สรุปสิ่งที่ได้รู้ ณ ตอนนั้น หรือ journal entry โดยมีคำถามท้ายบทด้วยให้เราพิมพ์ตอบประมาณชิ้นละ 1,000 - 2,000 คำ ถ้าจำไม่ผิด แล้วก็จะมี final essay อีกชิ้นด้วยค่ะวิชานี้ ใช้คำ 5,000 คำ เขียนเยอะมาก
Dissertation ยากไหมคะ ต้องมีกี่ word และเป็นการทำกลุ่มหรือทำเดี่ยวคะ
- กำหนด 15,000 คำค่ะ dissertation มีนทำเดี่ยวค่ะ เขาจะมีตาราง timeline มาให้อะค่ะ ว่าสัปดาห์ที่เท่าไหร่เราต้องส่งหัวข้อที่จะทำ เขาจะดูว่าหัวข้อที่ทำซ้ำกับเพื่อนไหม เค้าโครงเรื่องเป็นยังไงที่ต้องให้อาจารย์ประเมิน เขาจะดูด้วยว่าจะให้อาจารย์คนไหนมาเป็น supervisor ของเราด้วยค่ะ หลังจากนั้นถ้าหัวข้อผ่านเขาจะแจ้งเรามาทาง e-mail แล้วอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจ็กต์เราเป็นใคร หลังจากนั้นก็ทำตามขั้นตอนไปค่ะ เรื่องการปรับเปลี่ยนหรือการวางหัวข้อก็ไม่ได้ยากค่ะคือเขาให้สิทธิเราเสียส่วนมากในการทำ แต่อาจารย์เขาแค่กำหนดว่าในส่วนของ introduction กับบทแรก ขอให้เขาอ่านก่อน แล้วที่เหลือคือเขาไม่สามารถตรวจทานให้ได้ คือตรวจได้แค่นิดเดียว
มีโอกาสได้ทำโปรเจ็กต์อะไรกับบริษัทข้างนอกหรือเปล่าคะ
- ไม่ได้มีไปทำกับบริษัทนะคะ จะเน้นหาข้อมูลเอง ศึกษาเองเสียมากกว่า
เพื่อนในห้องเรียนส่วนใหญ่มาจากไหนกันบ้าง
- ส่วนใหญ่ก็คละ ๆ กันค่ะ ในคลาสของมีนมี 13 คนค่ะ จะแบ่งเป็น Belgium 2 คน France 1 คน Scotland 2 คน England 1 คน German 2 คน ที่เหลือก็เป็นชนชาติอื่น ๆ ค่ะ มี Bulgaria แล้วก็ Asia บรรยากาศในห้องเรียนก็ดีนะคะ เรียนเป็นแนวseminar ช่วยกันเรียน ทุกคนเป็นมิตรดีค่ะ ส่วนตัวมีนสนิทกับเพื่อนที่มาจาก Bulgaria ค่ะ มีไปกินข้าวกันบ้าง เที่ยว hangout กันงี้อะค่ะ
บรรยากาศในการเรียนเป็นยังไง กดดันไหมคะ
- ที่มีนเจอคาบแรกเลยก็ช็อกอยู่นะคะ เพราะอาจารย์ถามคำถามเราเลย ไม่ใช่ว่าเราฟังไม่รู้เรื่องนะ แต่แบบว่าเรากำลังประมวลผลที่จะตอบ คือจะตอบเขายังไงดี แล้วคือเพื่อนในคลาสนี้ก็ยกมือตอบกันพรึ่บพรั่บเลยค่ะ เพราะด้วยความที่คลาสมีขนาดเล็ก เรียน 3 ชั่วโมง อาจารย์ก็จะโยน topic แต่ละข้อ โยนกันถามตอบวนกันในคลาสอะค่ะ คลาสเรียนนี้เข้มข้นมาก มีนก็ไม่ได้ใช้เวลาในการปรับตัวเยอะเท่าไหร่ การเรียนการสอนของเขาคือต่างกับของไทยอย่างสิ้นเชิง เรียนสนุกมาก แต่ก็กดดันเหมือนกัน เพราะการนำเสนองานคือเราต้องรับมือกับคำถามที่เพื่อนจะถาม ต้องตอบคำถามอาจารย์ คือในการนำเสนอตอนนั้นคือที่ไทยอาจารย์จะอะลุ่มอล่วยให้ดูสคริปต์ได้บ้างใช่ไหม แต่ที่นี้คือดูไม่ได้เลยค่ะ ทุกอย่างคือจริงจังหมดเลย แต่ก็ไม่ได้อดหลับอดนอนในการทำงานนะคะ เราสามารถชิว ๆ ได้ค่ะ
อาจารย์แต่ละท่านเป็นยังไง Support ดีไหม มีวิชาไหนตัดเกรดโหดหรือเปล่า
- ก็แล้วแต่บางท่านนะคะ อาจารย์ที่ปรึกษามีนนี้แหละค่ะโหด คืออาจารย์คนอื่นอาจจะแบบแกรมม่า หลักการเขียนไม่ได้เคร่งมาก แบบสื่อเข้าใจก็โอเค แต่อาจารย์ที่ปรึกษาของมีนเนี่ย ตอนแรกที่ได้ essay มางานเขียนของมีนคือแดงเถือกเลย (หัวเราะ) แก้แกรมม่ากันกระจุยเลย แต่อีกวิชาคือแทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย มีนก็เลยถามเพื่อนในคลาสดูว่าเป็นเหมือนกันไหม สรุปคือเป็นกันทุกคนเลย แบบละเอียดยิบย่อยก็โดนค่ะ แต่รวม ๆ ก็ไม่ได้โหดอะไรนะคะ สมเหตุสมผล แต่เกณฑ์การตัดเกรดของเขาคือโหดอยู่นะคะ เพราะตัดอิงเกณฑ์หมดเลย ไม่มีการตัดอิงกลุ่ม
- อาจารย์เข้าหาง่ายนะคะ support ดีด้วย เขาจะจัดชั่วโมงการเข้าพบคือจะถามไถ่ความเป็นอยู่ของแต่ละคน มีนก็เข้าพบนะคะ ตอนจะไปหาอาจารย์คือเพื่อน ๆ ก็ยืนรอกันเต็มหน้าห้องเลย ไม่ว่าจะมาปรึกษาเรื่องการเขียน essay หรือ dissertation ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ได้หมดค่ะ
มหาวิทยาลัยมี Service ในการช่วยหาที่ฝึกงานให้นักเรียนไหมคะ
- อันนี้คณะของมีนก็มีในเรื่องของการพาไปดูงานนะคะ เช่นดูสภาอะไรทำนองนี้ ไม่มีไปฝึกงาน มีแนะนำการเรียนต่อดูในเชิงวิชาการเสียมากกว่า
ความรู้และประสบการณ์ที่ไปเรียนมีได้อะไรมาบ้าง
- ก็ค่อนข้างพูดยากนิดหนึ่ง คือความรู้ที่มีนได้มาก็เยอะอยู่ แต่ด้วยตัวงานที่มีนทำอยู่ตอนนี้มันไม่ค่อยต้องใช้ความรู้จากที่เราไปเรียนมาเท่าไหร่ แต่สามารถเอามาประยุกต์ใช้ได้คือการเรียบเรียงความคิดประมาณนั้นค่ะ
ความประทับใจที่ได้หลังจากไปเรียนที่ University of St Andrews ^^
- มีนชอบที่นี่มาก คนที่นี่อัธยาศัยดีมาก ไม่มีใครเหยียดหรือแสดงท่าทีไม่พอใจเลย เป็นเมืองที่ถ้าเดินไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็เดินทั่วเมืองเลย รับรองไม่มีการหลงทางแน่นอนสำหรับคนที่หลงทางบ่อย ๆ ค่ะ ตึกมีความเป็นเอกลักษณ์ ห้องสมุดก็มีหนังสือครบ ถ้าจะหาซื้อของพวกเอเชียก็สามารถนั่งรถไปซื้อได้ที่ Dundee เลยค่ะเพราะใกล้ ๆ กัน มีทุกอย่างครบครันตามที่เราต้องการเลย ตัวมหาวิทยาลัยก็ดีค่ะ อาจารย์เต็มใจจะช่วยมาก ไม่หวงวิชาเลย อาจารย์แต่ละท่านเก่งมาก เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก
คอร์สนี้เหมาะกับใคร อยากให้ฝากบอกอะไรถึงน้อง ๆ หน่อยค่า :)
- เหมาะกับคนที่เรียนทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนะคะ ควรมีพื้นมาก่อนด้วยคือไม่จำเป็นต้องมีก็ได้มันสามารถอ่านเอาเองได้ แต่ถ้ามีพื้นมาก็จะดีจะได้เรียนรู้ไปกับเพื่อนได้ไว เหมาะกับคนที่ชอบอ่านชอบเขียนด้วยนะคะ เพราะมันจะมีการเขียน essay ด้วย ถ้าใครชอบความสงบ เน้นธรรมชาติก็เหมาะที่จะมาเรียนที่นี่ University of St Andrews เรื่องความเข้มข้นทางด้านการเรียนที่นี่ก็สุด ๆ อยู่ด้วยนะคะ ไม่ผิดหวังแน่ถ้ามาเรียนที่นี่ค่ะ
สำหรับน้องๆที่สนใจเรียนต่อด้าน Strategic Studies
หรือสมัครเรียนที่ University of St Andrews สามารถลงทะเบียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างนี้เลยค่ะ"