"
รีวิวเรียนต่อ MSc Finance and Management ที่ uk University of Strathclyde Edinburgh
แนะนำตัวคร่าวๆ
ชื่อ Nalintip Piyaseth (Mai ไหม) นะคะ – จบปริญญาตรีสาขา Economics จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโท MSc Finance and Management มาจาก University of Strathclyde ตอนที่จบมาก่อนหน้านี้ก็ไปเริ่มทำงานที่ UOB ก่อน ซึ่งทำงานเกี่ยวกับ Investment Product ประมาณเดือนหนึ่งค่ะ ปัจจุบันย้ายมาทำงานที่ Bank of Thailand เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลนโยบายและกำกับงานอัตราแลกเปลี่ยนเงิน
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้ที่ Strathclyde
ก่อนหน้านั้นเลือกไปที่ University of Exeter แล้ว แต่พอไปอยู่แล้วเหมือนเมืองมันเล็กมากค่ะ ก็คิดว่าถ้าไปอยู่หนึ่งปี เราก็อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หรือว่าอยู่ในสถานที่ที่เรามีความสุขมากกว่านี้ แล้วก่อนหน้านั้นเรามีเพื่อนไปเรียนที่ Strathclyde เขาก็เล่าถึงเมืองให้ฟัง ว่ามันเหมือนเมืองใหญ่ คล้ายกรุงเทพฯ ที่เราอยู่ ก็เลยคิดว่า เอ้อ เรายังเปลี่ยนทัน อีกอย่างคือคอร์สเรียนทั้งสองที่นี้ก็ไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ที่ Strathclyde บังคับให้ทำ dissertation ส่วนที่ Exeter เราสามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ ส่วนที่เหลือก็เหมือน ๆ กันหมดเลย ก็เลยตัดสินใจมาที่ Strathclyde ค่ะ เพราะว่าอยากอยู่ในมหาวิทยาลัยที่อันดับดีหน่อย เมืองใหญ่ๆ หน่อย มีกิจกรรมให้ทำ ไปแล้วใช้ชีวิตในเวลาหนึ่งปีอย่างมีความสุขค่ะ เลยเลือกที่นี่
ทำไมถึงเลือกคอร์สนี้
เพราะว่าส่วนตัวเรียนจบ Finance เป็น minor จากปริญญาตรีมาเลยอยากไปเรียนต่อในด้านที่ specific หน่อย แต่คือไม่ได้อยากไปเรียนในด้านที่เป็น Finance หรือ Investment จ๋า แล้วเราก็ไม่ได้อยากทำงานที่ค่อนไปทางด้าน Finance, Investment ขนาดนั้น ก็เลยอยากหาอะไรที่มันมีเกี่ยวข้องกับตัวเลขทางการเงิน การคิดวิเคราะห์ทางการเงิน โดยเริ่มหาจากคอร์สก่อนเป็นอันดับแรกว่ามีมหาวิทยาลัยไหนที่บ้างที่เปิดคอร์ส Finance and Management ก็พอมีประมาณ 2-3 มหาลัย ณ ตอนนั้น เลยมานั่งกรองดูว่าที่ไหนได้ประโยชน์มากกว่า ไม่ว่าจะในด้าน theory และในเชิง practical ด้วย โดยที่ไม่ใช่แค่ในด้าน Finance อย่างเดียวแต่สามารถเอามาคิดในทางด้าน Business & Management ได้ด้วย
ชอบเรียนวิชาไหนที่สุด
- - Global Business Environment (GBE) เป็นวิชาเลือกในหมวดของ Management เข้าใจว่ามันคล้าย ๆ Entrepreneurship คือเราต้องไป study ไปทำ research area ที่เราอยากทำธุรกิจ แล้วก็ดูว่า context และ environment ที่เราจะไปลงทุนทำธุรกิจมันเป็นยังไง เพราะว่าในแต่ละ context มันมีลักษณะ เอกลักษณ์ที่มันเหมือนกัน ซึ่งมันสามารถเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้ เพราะว่าอาจารย์เขาสอนเป็นแบบ two-way communication ด้วย คือเรียนแล้วสามารถเอาไปเรียนได้ในชีวิตจริงเลยค่ะ ไม่ใช่เรียนแค่ในหนังสือ
วิชาแนว Finance ยากมั้ย ในฐานะที่พอจะมีพื้นฐานด้านนี้มาบ้าง
สำหรับไหมไม่ได้ความรู้ใหม่เท่าไหร่ แต่คือเรารู้ลึกขึ้น เราได้ทบทวนความรู้ที่เรียนมา อะไรแบบนี้มากกว่า อาจจะมีเรื่องใหม่นิดหนึ่ง แต่ถ้าสำหรับคนที่ไม่เคยเรียนทางด้านนี้มาเลยแล้วไปเรียนก็อาจจะ suffer ด้วยตัว curriculum ที่เขาวางไว้ค่อนข้างอัดอยู่ แต่ถ้าจะทำความเข้าใจก็อาจจะใช้เวลานิดหนึ่ง
วิธีการคิดคะแนนของ assignment และการสอบเป็นยังไงบ้างคะ
หลัก ๆ ของสาย Finance ที่นี่คือสอบเป็นส่วนใหญ่ งานจะน้อยมาก แต่มีบ้างบางวิชาที่เป็นงานกลุ่ม แต่ถ้าสาขา Marketing หรือ Business & Management เกือบทั้ง 100% เป็น course work เป็นงานกลุ่มหมดเลย ส่วนในแง่ของการคิดคะแนนจะพูดยากนิดหน่อย เพราะเราไม่ได้เป็นคน judge เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาตัดสินจากตรงไหน มีบางวิชาที่เราทำทั้ง report และ presentation ซึ่งได้ feedback มาดีกว่ากลุ่มอื่น แต่ได้คะแนนน้อยกว่ากลุ่มอื่น ถามว่ายากมั้ย ก็ไม่ยากนะคะ แค่หาเวลาตรงกันมาคุยกันงานกัน แต่จะยากในวิชาที่เขาบังคับกลุ่มแล้วได้เพื่อนไม่ดีมากกว่า
เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่มาจากไหน
จะมีคละ ๆ กันนะคะ จะมีอินโดนีเซีย เยอรมัน ยุโรป ส่วนไต้หวันพอ ๆ กับไทย แล้วก็จีนค่ะ
ลักษณะการเรียนเป็นยังไงบ้าง ตอนเรียนมีการ lecture หรือ discuss ยังไงบ้าง และสนิทกับเพื่อน ๆ มั้ย
Discussion ของที่นี่แทบจะไม่มีเลยค่ะ ที่นี่หลัก ๆ จะเป็น lecture คลาสก็ค่อนข้างใหญ่ เพื่อนก็จะสนิทกันตอนทำงานกลุ่มอ่าค่ะ เหมือนได้ใช้เวลาร่วมกันเยอะ และใช้เวลาร่วมกันเยอะ กว่าจะทำความเข้าใจกัน เพราะแต่ละคนก็มาจากต่างที่กัน
อาจารย์แต่ละท่านเป็นยังไงบ้างคะ อาจารย์ Support แค่ไหน ตัดเกรดโหดมั้ย
อาจารย์แต่ละท่านสามารถถามได้ค่ะ ซึ่งเขาจะแจกงานให้ทำเป็นคาบ workshop หลังจากที่เรียนคาบ lecture ไปแล้ว อย่างเช่นเรียน lecture วันจันทร์อีกวันถัดไปแล้วทำงานแล้วไม่เข้าใจก็สามารถถามเขาได้ในคาบ workshop ถามว่าตัดเกรดโหดมั้ย สำหรับไหมแล้วคือว่าไม่ยากนะคะ แนวข้อสอบจะเป็นข้อเขียนและตัวเลือกแบบชอยส์ด้วย ซึ่งก็จะออกตรง ถ้าหากเราทบทวนและหมั่นอ่านเนื้อหาวิชาที่จะสอบค่ะ
เทอมหนึ่งเทอมสองแตกต่างกันมากแค่ไหน ยากมั้ย
ไม่ยากค่ะ ถ้าเป็นในแง่เนื้อหาจริง ๆ เพราะเขาเอาเนื้อหาเทอมหนึ่งมา apply ในเทอมสอง แต่ต้องใช้เวลาหน่อย ซึ่งในเทอมสองงานมันจะโหลดกว่า ต้องเก็บเครดิตในฝั่งของวิชา Management ด้วย เป็นเทอมที่บวกทั้งงานกลุ่มและการสอบด้วย เราต้องจัดเวลาให้ดีเนื่องจากเวลามันใกล้ ๆ กัน ส่วนในตัววิชาที่เป็นหมวด Finance กับ Management จะเรียนแยกกันไปเลยค่ะ พวกวิชาที่เป็นหมวด Management ตอนเรียนก็มีบางวิชาเรียนรวมกันกับเพื่อนสาขาอื่นนะคะ เช่นวิชาเลือก เราลงเรียน Marketing Management เราก็จะได้เรียนกับพวกที่เรียน Inter management ด้วยค่ะ
เห็นว่าสาขานี้ Dissertation แยกเป็น Finance กับ Management ด้วย ลักษณะของงานเป็นยังไงบ้าง ยากมั้ย
- - เล่ม Dissertation ที่เป็นวิชา Finance ไม่ได้ทำงานกับบริษัทนะคะ คือแต่ละคนจะมี 1 บริษัท ไม่ได้ไปทำงานร่วมกับคนในบริษัท แค่เขาให้บริษัทจริงที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของอังกฤษมาให้ แล้วเราก็มาทำ solution เอาเอง เหมือนเป็นการดูข้อมูลภายในของบริษัทนำมาใช้
- - ในส่วนของ Finance ยากค่ะ ตอนอยู่ปริญญาตรีก็ไม่ได้ทำแบบนี้ แต่ว่าเกณฑ์การให้คะแนนมันอาจจะง่ายกว่า เพราะค่อนข้างตายตัว มี Financial modelling ออกมา มันก็จะมี Format ของมันอยู่ ในเรื่องของการหาข้อมูล เหมือนเราต้องมานั่งทำ research เองหา source เอง ภายในเวลาที่มันค่อนข้างกระชั้นชิด แล้วตัวเลขที่เราหามาไม่รู้ว่าถูกหรือผิดด้วย ต้องมานั่ง run model เอง ต้องใช้ 5 model ในการทำ dissertation
- - ใช้ 8,000 – 10,000 คำต่อเล่มค่ะ ทำเล่มละ 1 เดือน โดยต้องทำเล่ม Management ก่อนแล้วค่อยทำ Finance ต่อ
มหาวิทยาลัยมี Service ช่วยดูหรือหาที่ฝึกงาน หรือทำ project กับบริษัทมั้ยคะ
มีเป็น Career Service ค่ะ คือถ้าเราอยากเข้าร่วมเขาก็จัดให้ได้ แนะนำให้ได้ แต่ไม่ใช่เป็น curriculum นะคะ เป็นส่วนกลางของมหาวิทยาลัย ใครสนใจก็เข้ามาร่วมได้ เป็นคล้าย ๆ ชมรมมากกว่า ส่วนตัวมีลองหางานระหว่างเรียนอยู่ค่ะ แต่ว่าไม่ได้
ความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาจากการไปเรียน คิดว่ามีประโยชน์และได้ใช้กับการทำงานได้ยังไงบ้าง
ตอนนี้คิดว่าที่เห็นชัด ๆ น่าจะเป็นการดูแลตัวเองมากกว่านะคะ เพราะเราไปอยู่ที่นั่นตั้งหนึ่งปี แต่ถ้าเป็นเรื่องทักษะการเอามาประยุกต์ใช้ในการทำงานก็จะเป็นการทำงานร่วมกับคนอื่นมากกว่า เราเปลี่ยนแปลงไปในด้านที่ดีขึ้น ความรู้ที่เรียนมาตอนนี้อาจจะยังไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ เพราะมันไม่ได้ใช้ตัวเลขขนาดนั้น จะออกเป็นแนววิเคราะห์นโยบายมากกว่า
มีความประทับใจอะไรเกี่ยวกับการไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้บ้างคะ
- - ประทับใจตรงที่เป็นเมืองใหญ่ การเดินทางสะดวกสบาย การซื้อของสามารถหาซื้อได้ในละแวกนั้นเลย ทุกอย่างครบครัน คนที่นั่นใจดีทุกคน
- - Facilities ของมหาวิทยาลัย ห้องสมุดก็ปกติดีค่ะ แล้วหอที่เราอยู่ในเทอมแรกก็ใกล้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยด้วยสะดวกสบายในการใช้บริการด้วยค่ะ
- - การใช้ชีวิต ตรงนี้แล้วแต่ว่าเราเจอเพื่อนกลุ่มแนวไหนมากกว่าค่ะ ทุกอย่างก็คล้าย ๆ การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เลยค่ะ ถ้าเป็นกิจกรรมที่ formal จะมีแค่ครั้งเดียว เหมือนเป็นกิจกรรมรับน้องตอนแรก จัดที่ Glasgow Hall เหมือนเป็นคอนเสิร์ตเล็ก ๆ น่ะค่ะ ส่วนกิจกรรมที่เข้าร่วมกับเพื่อนคนไทยก็จะเป็นพวกแบบกินเลี้ยงงานวันเกิดเพื่อนอะไรประมาณนี้นะคะ ไม่ได้ formal อะไร
คิดว่าคอร์สนี้เหมาะกับใครบ้างคะ ควรมีพื้นฐานหรือประสบการณ์มาก่อนหรือเปล่า
ถ้าให้แนะนำ ก็มีพื้นฐานมาก่อนจะดีกว่านะคะ เพราะเราจะได้เข้าใจและ catch up กับการเรียนได้ง่ายขึ้น นำไปใช้ในชีวิตได้ง่ายขึ้น มันก็ไม่ได้ suffer ขนาดนั้นถ้าเกิดว่าอยากเรียนจริง ๆ แต่ว่ามีพื้นฐานมาบ้างก็ดีกว่าไม่มีพื้นฐานเลย เหมาะกับคนที่อยากเรียนรู้ในด้าน Finance แต่ไม่ได้เชิงลึกมาก ถ้าไม่ใช่สาย Quantitative มาก คอร์สนี้ก็ตอบโจทย์อยู่นะคะ
อยากฝากอะไรถึงน้อง ๆ หน่อย
ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะ ถ้าชอบ Management หรือ Investment ก็ไปทางด้านนั้นดีกว่า แต่ถ้าให้แนะนำทางด้านความเป็นอยู่หรือเมืองก็โอเคเลยนะคะ
สำหรับน้องๆที่สนใจเรียนต่อด้าน Finance and Management
หรือสมัครเรียนที่ University of Strathclyde
สามารถลงทะเบียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างนี้เลยค่ะ"