" รีวิวเรียนต่อ MBA Master of Business Administration ที่ University of Strathclyde "

แนะนำตัวคร่าวๆ
Pathana Jitsaereetham (Pat ปัฐน์) - จบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ก่อนจะไปเรียน MBA ที่ University of Strathclyde ก็ทำงานด้านวิศวกรรมกับด้านธุรกิจครับ หลังจากจบมาตอนนี้ก็ทำงานในตำแหน่ง Manager ด้าน Real Estate Development ครับ

ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้ที่ University of Strathclyde

• เนื่องด้วยตัวเนื้อหาหลักสูตรของ MBA มันมีความหลากหลายน่าสนใจ ตอบโจทย์ในทุกด้าน อีกอย่างเราอยากเพิ่มความรู้ให้ตัวเองในด้านนี้ด้วย เลยเลือกที่จะเรียนคอร์สนี้ ตอนนั้นผมดู Ranking ของ MBA ก่อนอันดับแรกเลยครับว่าที่ไหนอยู่ในระดับที่น่าสนใจ จากนั้นก็เทียบมหาวิทยาลัยแต่ละที่ ถัดไปก็มาดูองค์ประกอบอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมืองที่จะไปอยู่  บรรยากาศของมหาวิทยาลัย ด้วยความที่ผมไม่ชอบเมืองที่ค่อนข้างใหญ่อย่าง London บวกกับเรามาเทียบเคียงองค์ประกอบอื่น ๆ ของแต่ละที่ที่เราจะไป แล้วที่  University of Strathclyde ตอบโจทย์ตรงความต้องการ ผมเลยเลือกที่นี่ครับ

ลักษณะการเรียนการสอนเป็นอย่างไร

• ลักษณะการสอนจะเน้นเป็น discussion และ group work เน้นการทำงานร่วมกันกับคนอื่นภายในห้องเรียน ไม่ค่อยมีงานเดี่ยวนะครับ ในแต่ละวันจะมี case study ด้วยให้ discussion กันในบางวิชาครับ แล้วโดยรวมก็มี lecture ด้วยครับ

ระหว่างที่เรียนชอบวิชาไหนที่สุดคะ

• ผมชอบวิชาแนว ๆ Strategy ซึ่งจะมีอยู่สองสามวิชานะครับ เป็นพวกวิชา Scenario Planning, Development, Strategy Analysis & Evaluation เป็น case study จากสถานการณ์จริงของบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ที่เราต้องมาประมวลผลว่าจะทำยังไง ใช้กลยุทธ์ยังไง ทำยังไงให้มันออกมาดีนะครับ อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าการเรียนเป็นการสอนที่เน้น discussion และ group work แล้วในกลุ่มห้องเรียนของผมมีประมาณ 30 คน มีหลากหลายชาติ ประสบการณ์การทำงานของแต่ละคนต่างกัน เวลาเรียนต้องมาออกความคิดเห็นกัน เราก็จะได้เห็นความคิดของแต่ละคน แนวคิดที่ต่างกันทำให้มองเห็นอะไร ๆ ขึ้นเยอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีด้วยครับ

คอร์ส MBA มีกี่วิชา แต่ละวิชาสัมพันธ์กันมั้ย

• คอร์สนี้มันมี 3 เทอมครับ ซึ่งเทอมที่สามเราจะมีทำ dissertation แต่ยังมีเรียนอยู่นะครับ จำนวนวิชาที่เรียนตลอด 3 เทอมนี้ถ้าจำไม่ผิดก็จะอยู่ที่ 13 – 15 วิชาครับ (นับรวมวิชาเลือก) ถ้าถามว่าแต่ละวิชาสัมพันธ์กันมั้ย มันจะไล่ไปตามขั้นตอนนะครับ ซึ่งเทอมหนึ่งเทองสองจะเป็นแนว individual ของใครของมันอยู่ เกี่ยวกับพวก Operations Management, Marketing, Management ทำนองนี้ครับ แต่พอเข้าเทอมสามพวกวิชา Strategy เวลาทำงานกลุ่มหรือการบ้าน ก็จะนำเอาความรู้รายวิชาที่เรียนมาในเทอมหนึ่งเทอมสองมา link กัน ให้ออกมาเป็นงานเต็มกระบวนการที่เรียนมาครับ เป็นการรวบยอดสรุปภาพรวมที่เรียน ๆ มานะครับ

วิชาเลือกมีให้เลือกเยอะมั้ย เป็นแนวไหนบ้าง

• มีให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยครับ ประมาณ 10 – 15 วิชา แต่เราเลือกได้แค่ 2 วิชานะครับ ซึ่งจะครอบคลุมทุกเนื้อหา ไม่ว่าเป็น Operations Management, Marketing, Management และ HR มีให้เลือกเรียนที่ Glasgow หรือว่าจะไปเรียนที่ศูนย์อื่นของเขา เช่น Greece, Switzerland, Dubai, Singapore และ Hong Kong ครับ แล้วก็สามปีหลังจากที่เรียนจบสามารถไปเรียนตามศูนย์ต่าง ๆ ที่เขามีได้นะครับ โดยเลือกเรียนฟรีได้สองวิชาไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วก็จะเปิดให้เรียนในช่วงเทอมหนึ่งเทอมสองของมหาวิทยาลัยนะครับ โดยที่ตารางเรียนมันจะกระจายกันออกไปครับ

(รายละเอียด https://www.strath.ac.uk/business/internationalcentres/)

การทำงานกลุ่ม อาจารย์จับกลุ่มให้หรือว่าเราเลือกเอง ลักษณะงานเป็นยังไงบ้าง

• - เทอมแรกเขาจะจับกลุ่มให้ครับ พอช่วงเทอมสองหรือเทอมสามเขาจะให้โอกาสในการเลือกจับกลุ่มเองครับ ซึ่งคลาสเรียนของผมมันไม่ได้ใหญ่มาก ข้อดีก็คือได้รู้จักเพื่อนในห้องทั้งหมด ได้รู้ว่าแต่ละคนมีวิธีการทำงานยังไง เชี่ยวชาญด้านไหน ทำให้การทำงานกลุ่มมันกว้างขึ้น กระชับความสัมพันธ์กันเพิ่มขึ้น
• - งานที่ทำออกมาก็จะมีพวก report ซึ่งจะมีทุกวิชาครับ ส่วน presentation ก็เป็นบางวิชา ของ MBA จะเรียนเป็นวิชาหนึ่งจบใน 2 อาทิตย์แล้วขึ้นวิชาใหม่ จะมีทั้ง present ระหว่างเรียนและ present ตอนจบ ประกอบกับการทำ report คู่ไปด้วยครับ แล้วแต่วิชาไปครับ แต่จะมีงานมาให้ทำเรื่อย ๆ นอกจากจะเน้นพวก group work เขาก็เน้นพวก presentation ด้วยไม่ว่าจะเป็นงาน project ที่เราทำอยู่แล้วหรืองาน project ที่เราทำงานกับบริษัทที่เราต้องไปนำเสนอกับลูกค้าด้วยครับ

Project ที่ทำกับบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง ทางมหาวิทยาลัยหาบริษัทให้หรือเราหาเอง

• - Project ที่ทำจะเกี่ยวกับวิชา Strategy เขาจะรวบยอดที่เรียนทั้งหมดไปทำ project ซึ่ง project ที่ทำกับบริษัทก็จะมีสองแบบ คือเชิญบริษัทข้างนอกเข้ามาร่วม กับเราไปช่วยแก้ปัญหาของเขาที่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง พฤติกรรมผู้บริโภค, Finance อะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับด้านธุรกิจครับ เขาให้เรามีโอกาสได้ชี้แจ้งหรือสอบถามประเด็นกับลูกค้า (บริษัท) ว่าความเป็นมาทำไมเป็นอย่างนี้ เกิดอะไรขึ้น มันมีประเด็นนี้ได้ยังไงต่อ ประมาณนี้ครับ หลังจากนั้นเราก็ไปช่วยกันคิด ระดมไอเดียเพื่อแก้ปัญหากันในกลุ่มกับเพื่อน อาจจะใช้เวลาหน่อยน่าจะ 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือนก็ว่าไปครับ พอเสร็จกระบวนการนี้ก็นำแนวความคิดของกลุ่มไปนำเสนอกับลูกค้า (บริษัท) แล้วบริษัทที่เราได้ทำงานกับเขา เขาก็มีส่วนในการให้คะแนนในการนำเสนอร่วมกับอาจารย์ด้วยครับ
• - ทางมหาวิทยาลัยเป็นคนหาบริษัทให้ครับ เป็นแบบสุ่มมาให้ครับ เป็นคนจัดให้เลยครับ เขาให้โจทย์มาคือคุณทำยังไงก็ได้ให้ได้ผลลัพธ์ออกมา

 
MBA Project นี้เทียบเท่ากับการทำ Dissertation มั้ย ลักษณะเป็นยังไง ทำตอนเทอมไหน ทำเดี่ยวหรือทำกลุ่ม ต้องเขียนกี่คำ

• - ที่จริงมันก็คือ Dissertation แหละครับ ทำช่วงหลัก ๆ คือประมาณเทอมสามครับ แต่ว่าช่วงเทอมสองเขาจะมี direction ให้ครับว่ารายละเอียดเป็นยังไง มีทำเมื่อไร ซึ่งเด็กก็จะหาหัวข้อในการทำ และหาอาจารย์ที่ปรึกษาก็ช่วงปลายเทอมสองนี่แหละครับ ช่วงจบเทอมสองก็จะเข้าไปหาอาจารย์ หาบริษัทที่เราจะไปทำด้วย แล้วก็ตัว MBA Project นี้ก็แล้วแต่เด็กเลยครับว่าจะทำเป็น academic report, เป็น dissertation อย่างเดียว หรือจะทำเป็นแนว consultancy project ที่ทำกับบริษัทข้างนอก อะไรทำนองนี้ครับ
• - ตัวผมเองเลือกทำเป็น consultancy กับบริษัทที่นั่นนะครับ โดยเราจะไปคุยกับทั้งทางบริษัทและอาจารย์ว่าบริษัทมีปัญหาอะไร อยากให้เราช่วยตรงไหน ซึ่ง project ที่ผมทำมันเกี่ยวกับพวก strategy แบบมีปัญหาอะไรยังไง เราก็จะไปปรึกษาอาจารย์ ว่าถ้าเรามีแผนการทำงานแบบนี้ หัวข้อนี้ แล้วนำเสนอการทำงานแบบนี้จะโอเคมั้ย มีอะไรที่ต้องใส่เพิ่มเติมมั้ย ซึ่งมันจะต่างจาก dissertation ปกตินิดหนึ่งตรงที่เราต้องจัดการทั้งสองด้าน ทั้งบริษัทภายนอกและอาจารย์ด้วยครับ เป็นอะไรที่ท้าทายอีกอย่างหนึ่งครับ นอกนั้นก็เป็นการเข้าหาบริษัทข้างนอกเอง โดยที่อาจารย์ไม่ได้เข้ามายุ่งอะไรเลย อาจารย์จะมีส่วนในการแสดงความคิดเห็นตอนที่เราไปจัดการเรียบเรียงเนื้อหาข้อมูลของบริษัทมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสุดท้ายเราก็ต้องทำ project ให้ลุล่วงตามโจทย์ที่ได้มา บรรลุเป้าหมายของบริษัทที่เราไปตกลงมา บรรลุตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่คุยกับอาจารย์และคอร์ส MBA  project  ครับ
• - สามารถทำได้ทั้งเดี่ยวและกลุ่มครับ เป็นกลุ่มเท่าที่ผมเห็นมากสุดก็ไม่เกิน 3 คนครับ ส่วนการใช้คำคือถ้าทำเดี่ยวจะ 18,000 คำ ส่วนเป็นกลุ่มจะใช้ 20,000 คำ ตัวผมเองทำเป็นคู่ครับ ส่วนเรื่องการให้คะแนนจะเท่ากันทั้งหมดเลยครับ

ทางอาจารย์ได้ช่วยแนะนำบริษัทให้เราทำ MBA project มี list มาให้มั้ยหรือให้เราหาเอง  

• ของ MBA project นี้ เขาจะมีรายชื่อบริษัทมาให้ ของผมเองคือดูจากรายชื่อแล้วก็ลองติดต่อทางบริษัทไป 3 – 4 บริษัท โดยลองเข้าไปคุยก่อนว่าเขาอยากทำแนวไหน หลังจากนั้นค่อยมาเลือกบริษัทหนึ่งที่เราสนใจจะทำ ก็จะมีบางกลุ่มที่เอาบริษัทของตัวเองหรือบริษัทข้างนอกเข้ามาก็ได้เหมือนกันครับ (มีบังคับให้เลือกแค่บริษัท local มั้ย?) ไม่มีนะครับ สามารถเลือกจากประเทศตัวเองก็ได้ครับ

อาจารย์ช่วย Support มั้ย มีส่วนช่วยในการเรียนการสอนอย่างไร

• มีส่วนช่วยเยอะเลยครับ เพราะอาจารย์หลายคนมีความเชี่ยวชาญแต่ละด้านต่าง ๆ กันออกไป ซึ่งบางคนก็มีทำ project กับบริษัทข้างนอกด้วยนะครับ ยังมีอาจารย์ที่เป็นวิทยากรข้างนอกมาให้ความรู้ด้วยท ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีในการได้รับฟังประสบการณ์ของเขาที่ได้ไปเจอมา แล้วก็รู้วิธีแก้ปัญหาแต่ละหัวข้อเรื่องที่เขาบรรยายด้วยครับ อาจารย์เข้าหาได้ตลอดเลยครับ

การตัดเกรดเป็นอย่างไร ตอนสอบยากมั้ย

• คะแนนที่ 70 จะได้ Distinct, 60 เป็น Merit แล้วก็ผ่านที่ 50 ครับ เกณฑ์การให้คะแนนจะเป็นในส่วนของ group work, assignment และการสอบครับ ซึ่งวิชาที่สอบจะมี 6 วิชา นอกนั้นจะเป็น group work ล้วน ๆ
• ตอนสอบเขาจะมีสรุปเนื้อหาให้ครับว่าเนื้อหาที่ออกสอบจะมีประมาณนี้ ๆ นะครับ จะได้ให้ไปเตรียมสอบได้ถูกด้วยครับ

มหาวิทยาลัยมี Service ในส่วนของการหางาน หรือช่องทางการได้ job offer ให้มั้ย

• ไม่มีนะครับ นอกเหนือจากพวกวิชาเรียน ทาง career unit ของ MBA เขามีช่วยบ้างในส่วนของการเชิญวิทยากรภายนอกมาพูด มีการทำ workshop นอกเหนือจากวิชาเรียนก็ดีครับ แต่ในเรื่องของการหางานเขาก็ไม่ค่อยได้ support เท่าไหร่นัก

Business School ของ Strathclyde ได้รับ accredit อย่างพวก AMBA, AACSB, EQUIS อยากรู้ว่าตรงนี้มีส่วนในการเรียนที่ Strathclyde มากน้อยแค่ไหน

• อันนี้มองว่าเป็น Profile ของเรามากกว่าครับ แบบจบมาจากมหาวิทยาลัยที่ได้รับ accreditation ทำให้เพิ่มความมั่นใจด้วยครับ

ความรู้และประสบการณ์ที่ไปเรียนที่ Strathclyde นำมาประยุกต์ใช้การกับทำงานได้มากน้อยแค่ไหน

• ได้เปิดโลกกว้างทางด้านความคิด และมุมมองหลาย ๆ ด้านจาก classmate ที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว ซึ่งประสบการณ์ของแต่ละคนแตกต่างกัน เราสามารถซึมซับมาประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ครับ ผมว่ามันมีประโยชน์และข้อดีมากนะครับที่ได้มาเรียนที่นี่

ความประทับใจที่ได้ไปเรียนที่ Strathclyde

• ชอบเมืองครับ ไม่เล็กไม่ใหญ่ ไม่วุ่นวาย มีทุกสิ่งที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ที่กินข้าว ที่เที่ยว
• Facility ของเมือง สะดวกสบาย ดีทุกอย่างครับ และของมหาวิทยาลัยนี้นะครับที่ MBA Unit มีเจ้าหน้าที่เฉพาะ มีห้องพักของ MBA Unit ให้ เรื่องห้องสมุด ฟิตเนสถือว่าโอเคเลยครับ

สิ่งที่คิดไว้ก่อนจะไปเรียนกับสิ่งที่ไปเจอตอนเรียน แตกต่างกันยังไง

• จริง ๆ ด้วยความที่ผมเรียนสายวิทย์มาก่อนแล้วเรื่อง lecture ผมก็เขียนจนชิน แล้วคิดว่าไปเรียนที่ Strathclyde ก็น่าจะมีอยู่แล้วแต่อาจจะมีเรื่องของการทำงานกลุ่มด้วย แต่พอไปเรียนแล้วมันก็ต่างกับที่คิดไว้นิดหน่อยนะครับเพราะว่าที่บอกไปก่อนหน้านั้นว่าเขาจะเน้นไปทางด้าน group work ได้เรียนรู้จากเพื่อนรอบข้าง ได้รับความรู้จากวิทยากรข้างนอกด้วย ส่วนเรื่องเมืองและมหาวิทยาลัยก็ตรงตามที่คิดไว้ครับ

คิดว่าคอร์ส MBA นี้เหมาะกับใครบ้างคะ

• แนะนำว่าเหมาะกับคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วสักประมาณ 5 ปีนะครับ เนื่องจากเนื้อหามันเป็นแนวให้เราไปศึกษาทำความเข้าใจมาแล้วพอเข้าคลาสเรียนก็ต้องไป discuss กันในห้อง คุยกันว่ามีมุมมองยังไงกับ case นี้ แล้วในทฤษฎีที่เรียนไปมันเกี่ยวข้องกันมั้ย เกี่ยวยังไง ซึ่งเขาอยากให้เราดึงประสบการณ์ที่เราได้ทำงานมา เอามาใช้ แล้วเราจะเอามาใช้ยังไง มีวิธีที่จะพัฒนามันมั้ย ถ้ามีจะทำยังไงประมาณนี้นะครับ แล้วก็เหมาะกับคนที่จะทำงานเป็นแนว consultant ด้วยครับ

อยากฝากอะไรถึงน้อง ๆ ที่สนใจจะเรียนคอร์สนี้บ้าง

• อยากให้ลองเปรียบเทียบคอร์สและสถานที่เรียนดูนะครับ เพราะแต่ละที่มันต่างกันครับ ซึ่ง Scotland ก็เป็นตัวเลือกที่ดี การเรียนก็เข้มข้น บรรยากาศในมหาวิทยาลัยและในตัวเมืองก็ดีครับ สำหรับใครที่สนใจก็ดู ๆ ที่นี่ได้นะครับ

สำหรับน้องๆที่สนใจเรียนต่อด้าน Master of Business Administration หรือสมัครเรียนที่ University of Strathclyde สามารถลงทะเบียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างนี้เลยค่ะ"