Scottish Universities Alumni
"
รีวิวเรียนต่อ MSc International Management ที่ University of Strathclyde "
Pichamon Paraksa (Praew แพรว) – University of Strathclyde
MSc International Management
ตอนนี้ทำงานตำแหน่ง Media Planner ที่ IPG Media เป็น Agency โฆษณา
ช่วงที่เรียน มีวิชาที่ชอบที่สุดบ้างมั้ยคะ ยกตัวอย่างสัก 2-3 วิชาได้มั้ยคะ
- จะมีวิชา Business Strategy คนที่มีพื้นฐานด้าน Marketing มา ช่วงแรก ๆ จะรู้สึกว่าเหมือนเรียน Marketing เลย แต่พอครึ่งหลังภาพรวมมันไม่ได้มองแค่ Marketing น่ะค่ะ มันจะเป็นการโยงทั้งองค์กรเข้ามาด้วยกัน มันออกแนว support ความรู้ที่เราเคยมีด้วย อีกวิชาที่ชอบก็คือ International Entrepreneurship เขาจะให้คิดธุรกิจหนึ่งขึ้นมา แล้วก็มี Presentation รู้สึกว่ามันสนุกดี ที่ชอบที่สุดจะเป็น 2 วิชานี้ค่ะ แต่ว่าวิชาที่เกี่ยวข้องกับ Marketing เราก็โอเคนะ อย่าง Branding อะไรแบบนี้ เราชอบวิชาที่เป็นเชิงแนว Practical มากกว่า ส่วนในตัววิชาเลือก เราเลือกเรียน Brand Management & Strategy จริง ๆ เคยเรียนมาแล้ว แต่ว่าอยากรู้ว่าการเรียนที่นี่มันจะแตกต่างจากตอนเรียนที่ไทยมั้ย แล้วก็เลือกเรียน Digital ที่มันกึ่ง ๆ Marketing นิดหนึ่ง คือแพรวทำงานสาย Digital มาก่อน เลยคิดว่ามันคงจะ support งานที่เราทำได้ พอตอนเรียนจริง ๆ มันจะไม่ได้มองในแง่ Media แต่จะมองในเชิง Business ว่า Digitalแทรกแซงอยู่ในตัวธุรกิจยังไง
สาขานี้มีกี่คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กจบใหม่ หรือเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้าน Business มาแล้ว
- ถ้าเป็นสาขา International Management น่าจะประมาณ 50 - 60 คน แต่บางวิชาก็จะมีเรียนรวมกับสาขา Business & Management ด้วย ส่วนใหญ่จะมาจากจีนค่ะ รองลงมาก็มาจากอินเดีย แล้วก็จะมีมาจากยุโรปบ้าง ตอนนั้นที่เจอมีคนไทย 3 คนค่ะ น้องที่เรียนด้วยกันก็ทำงานมาแล้ว รุ่นเราคนไทยไม่ค่อยเยอะค่ะ แล้วก็ส่วนใหญ่ก็จบด้าน Business มา แต่ว่าจะมาจากคนละสาขากันค่ะ
สัดส่วนระหว่างการสอบ และ Assignment เป็นยังไงบ้างคะ
- ไม่มีวิชาที่ต้องสอบล้วนค่ะ อย่างเทอมแรกจะเป็นครึ่ง ๆ แบบมีทั้งสอบและ Assignment ที่เป็นงานกลุ่มค่ะ พอเทอมสอง บางวิชาก็จะเริ่มมี Presentation ส่วนใหญ่ก็จะประมาณ 10 - 20% บางครั้งก็จะมีแบบประเมินตนเองในการทำงานว่าจากการเรียนวิชานั้น ๆ ได้เรียนรู้อะไรบ้าง เช่น ตอนที่เรียนปริญญาตรี เราไม่เข้าใจประเด็นนี้เลย แต่พอได้ลงมือทำ ไปเจอทฤษฎีต่าง ๆ ก็เข้าใจมากขึ้น
อย่างในเทอมแรกไม่ได้จับกลุ่มทำงานกันเอง มีอุปสรรคในการทำงานกับเพื่อน ๆ มั้ยคะ และแตกต่างจากเทอมสองที่เราสามารถจับกลุ่มเองมากมั้ยคะ
- ข้อดีของการไม่ได้จับกลุ่มทำงานเองคือ เราไม่ได้รู้สึกว่าเราถูกทิ้งน่ะค่ะ เขาจะจับกลุ่มโดยการคละนักเรียนจากหลาย ๆ ประเทศ
สิ่งแวดล้อมบรรยากาศในการเรียนเป็นยังไงบ้างนะคะ เพื่อน ๆ ช่วยกันเรียนมั้ย
- บรรยากาศใน Class ค่อนข้างเงียบค่ะ แต่ก็จะมีคนที่ยกมือตอบเกือบทุกครั้งเลย
อาจารย์แต่ละท่านเป็นยังไงบ้างคะ Support เรามั้ยถ้าเกิดว่าเรามีอุปสรรคในการเรียน
- อาจารย์ก็ดีค่ะ ถ้าเรามีข้อสงสัยอะไร ก็สามารถถามเขาได้เลยค่ะ เขาก็จะช่วยอธิบายในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ บางท่านเขาก็จำชื่อนักเรียนใน Class ได้หมดเลย จำได้ด้วยว่างานกลุ่มทำเรื่องอะไร
MIM Project ที่เป็นโปรเจ็กต์จบเป็นยังไงบ้าง ต้องเขียนกี่คำ แล้วทำเป็นกลุ่มหรือเดี่ยว
- สาขาเราไม่ได้บังคับว่าจะต้องเดี่ยวหรือกลุ่ม หัวข้อก็สามารถเลือกเองได้ แต่ว่าต้องเป็น International และเกี่ยวข้องกับ Business สามารถทำได้ตั้งแต่ 1-4 คน แต่จำนวนคำก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อาจารย์ที่ปรึกษาเขาจะเป็นคนดูก่อนว่าหัวข้อจะเขียนได้ถึงจำนวนคำที่กำหนดมั้ย แล้วก็จะบอกว่าหัวข้อนี้ทำได้กี่คน การทำหลายคนมันจะดีตรงที่จำนวนคำต่อคนจะน้อยลง ในส่วนของตัวโปรเจ็กต์ เราได้ทำเป็นกลุ่ม 2 คน ทำเกี่ยวกับการเขียนคำผิดในสื่อโฆษณาว่ามีผลต่อการรับรู้ของคนมั้ย ซึ่งอาจารย์ก็จะให้เราเขียนส่งทีละส่วน แล้วเขาก็จะเช็กว่าโอเคมั้ย ถ้าโอเคก็ทำส่วนต่อไปได้เลย เขาก็จะคอยแนะนำด้วยว่าถ้าทำไม่ทัน ลดเหลือเป็นเท่านี้ดีมั้ย ส่วนจำนวนคำที่ต้องเขียน ก็จะประมาณ 20,000 คำ จริง ๆ มันอยู่ที่ 18,000 – 24,000 คำค่ะ ถ้าทำ 2 คน
อาจารย์ที่ปรึกษาสำหรับโปรเจ็กต์ก็ support ดีใช่มั้ยคะ นัดคุยบ่อยมั้ย
- ของเราเจอประมาณ 6 – 7 ครั้ง คือถ้าเราไม่เข้าใจตรงไหนก็สามารถอีเมลไปถามเขาได้ หรือถ้าจำเป็นต้องคุยกับเขาจริง ๆ ก็นัดเข้าไปคุยได้ แต่อาจจะต้องถามเขาก่อนว่าช่วงนั้นว่างมั้ย จะเข้าไปคุยได้หรือเปล่า และเวลาเข้าไปคุย อาจารย์เขาก็จะแนะนำหนังสือว่าเหมาะกับตรงไหนบ้าง หรือให้ดูตัวอย่างงานเขียนของเขา
เห็นในหลักสูตรจะมีวิชาที่ชื่อ Consultancy in Practice วิชานี้เป็นยังไงบ้างคะ
- เราจะได้ไปฟังบรีฟของบริษัท และเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ ซึ่งงานที่ได้ทำต้องระดมสมองแล้วทำ Paper สั้น ๆ 3,000 คำ เหมือนเป็น Business Plan วิชานี้เรียนรวมกันหลายสาขามาก เพราะฉะนั้นก็จะมีทั้งงานเดี่ยว และงานกลุ่มค่ะ กลุ่มจะเป็นแบบ random ประมาณสิบกว่าคน แล้วก็จะมี Presentation โดยจะนำเสนอ Business Plan ให้กับลูกค้าฟัง ตอนต้นอาจารย์จะเป็นคนเลือกบริษัทมาให้เลยค่ะ ว่าใครจะได้ทำของบริษัทไหน โดยรวมใช้เวลาทำไม่นานนะคะ คือเรียนในห้องไม่ถึงอาทิตย์ จากนั้นก็ไปฟังบรีฟจากบริษัท แล้วก็มาอัพเดตให้อาจารย์ฟังในแต่ละอาทิตย์ว่าโปรเจ็กต์เราทำไปถึงไหนแล้ว ที่เหลือก็เหมือนปล่อยให้แต่ละกลุ่มจัดการกันเองเลยค่ะ
นอกจากวิชา Consultancy in Practice มหาวิทยาลัยมี Service ช่วยดูหรือหาที่ฝึกงาน หรือทำ Project กับบริษัทมั้ยคะ
- จริง ๆ มหาวิทยาลัยจะมี Job Fair แต่เราก็ต้องเตรียม Resume ตั้งแต่ก่อนจะไปอยู่แล้ว คือถ้าเราอยากจะทำงาน หรือฝึกงานที่นู่นก็ต้องแพลนให้ตัวเองตั้งแต่ที่ไปถึงเลย น้องคนไทยก็มีได้ฝึกงานกับบริษัทที่นู่นนะคะ คือน้องเขาค่อนข้าง friendly เลยทำให้มี Connection กับคนท้องถิ่นเยอะ
ความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาจากการไปเรียน คิดว่ามีประโยชน์และใช้กับการทำงานได้มากน้อยแค่ไหน
- รู้สึกว่าการใช้ชีวิตอยู่ที่นู่นสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้มากที่สุด เรารู้สึกว่าตัวเองใช้ภาษาอังกฤษดีขึ้นมาก เนื่องจากเราต้องอยู่กับเพื่อนต่างชาติ พอทำงานกับเพื่อนต่างชาติ มันทำให้เราพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น เราคิดว่ามันเป็น life skill นะ เพราะเวลาทำงานหลาย ๆ วิชา จะต้องมีการทำงานเป็นกลุ่ม แสดงความคิดเห็น อธิบายให้คนในกลุ่มให้เข้าใจ ซึ่งตรงนี้มันฝึกการทำงานร่วมกับคนอื่น การประนีประนอม
มีความประทับใจอะไรเกี่ยวกับการไปเรียนที่นี่บ้างคะ จะเป็นเรื่องคอร์ส อาจารย์ เมือง Facilities ก็ได้นะคะ
- ค่าครองชีพของที่เมือง Glasgow ถูกกว่าที่ Edinburgh มาก ร้านข้าวใน Glasgow อร่อยกว่าด้วย แล้วก็เส้นถนนหลักต่าง ๆ ไม่ซับซ้อน ร้านค้าก็หาง่าย ไม่ไกลจาก Strathclyde อากาศดีมาก แล้วก็ธรรมชาติของสก็อตแลนด์สวยมาก ในแต่ละฤดูก็จะมีความสวยของตัวเอง ส่วน Facilities ของมหาวิทยาลัย ยิมของที่นี่ดีมาก ห้องสมุดมี service ให้ยืมหนังสือจากข้างนอกด้วย สามารถดู Research ได้ฟรี และมหาวิทยาลัยมี service เกี่ยวกับ Mental Health ให้ด้วย ถ้าเกิดรู้สึกเครียดก็สามารถไปหาได้ อยู่ไม่ได้ไกลจากโรงพยาบาลมาก
สุดท้ายนี้ คิดว่าคอร์สนี้เหมาะกับใครคะ และมีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่กำลังสนใจคอร์สนี้มั้ย
- คิดว่าควรมีประสบการณ์ทำงานมาประมาณ 1 ปีก็น่าจะโอเคค่ะ เพราะว่าใน Class ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ discuss กันเยอะมาก มีพื้นฐานด้าน Business มาด้วยก็ดีค่ะ และควรเตรียมตัวให้พร้อม มันจะทำให้เราได้อะไรกลับมาเยอะมาก อยากจะฝากว่าสิ่งที่ควรเตรียมตัวมาก่อนเลยคือ ภาษา ควรเตรียมพื้นฐานมาให้พร้อมประมาณหนึ่ง แล้วก็อยากฝากว่าอย่าคิดว่าตัวเองจะเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ อยากให้ลองดูก่อน มันอาจจะได้ก็ได้
สำหรับน้องๆที่สนใจเรียนต่อด้าน International Management
หรือสมัครเรียนที่ University of Stratnclyde สามารถลงทะเบียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างนี้เลยค่ะ
"